ข่าว ภูมิภาค
สตม.รวบหนุ่มฟิลิปปินส์ ใช้ชีวิตติดหรู วางอุบายแสบตระเวณชักดาบโรงแรม 5 ดาว หลายแห่งเสียหายหลายแสน
สตม.รวบหนุ่มฟิลิปปินส์ ใช้ชีวิตติดหรู วางอุบายแสบตระเวณชักดาบโรงแรม 5 ดาว หลายแห่งเสียหายหลายแสน
   พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม, พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมืองและชาวต่างชาติ ที่มีลักษณะเป็นอาชญากร หรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ได้กระทำความผิดตามกฎหมาย ถือเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. 
   โดยที่ผ่านมา พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับแจ้งข้อมูลร้องเรียนและเบาะแสที่น่าสนใจ จากผู้ประกอบการโรงแรมระดับ 5 ดาว หลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพหานคร เกี่ยวกับพฤติกรรมของชายชาวฟิลิปปินส์รายหนึ่ง ซึ่งตระเวณก่อเหตุ ออกอุบายหลอกพนักงานโรงแรม เพื่อเข้าพักโดยไม่ชำระค่าที่พักและอาหาร โดยพบว่ามีพฤติกรรมลักษณะในการกระทำความผิดต่อเนื่องและก่อเหตุมาหลายครั้ง หลายพื้นที่โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงสั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ พร้อมชุดปฏิบัติ นำโดย พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ และ พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงเรียกประชุมชุดสืบสวน ในการลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว เพื่อจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป
   สำหรับพฤติการณ์ในการก่อเหตุของคนร้ายรายนี้ ย้อนไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2567 ผู้จัดการโรงแรมชื่อดังระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับพฤติกรรมของชายชาวฟิลิปปินส์รายหนึ่ง ที่ได้ก่อเหตุหลอกพนักงานโรงแรม เพื่อขอเข้าพักและไม่ยอมชำระค่าที่พักพร้อมทั้งอาหาร โดยแผนคนร้ายมีความแยบยล กล่าวคือ คนร้ายจะทำการจองห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มชื่อดัง จำนวน 4-5 คืน โดยขั้นตอนการจอง คนร้ายได้กรอกเลขบัตรเครดิตไว้ซึ่งระบบจะทำการหักเงินจริงและเมื่อมีการนำบัตรมารูดชำระที่โรงแรม โดยทุกครั้งที่ทำการจอง คนร้ายจะเลือกจองห้องพักพร้อมกับรถลิมมูซีนให้รับจากสนามบินจำนวน 2 คัน โดยแจ้งว่าตนจะพักอาศัยกับบิดา โดยในรายละเอียดการจอง จะให้รถลิมมูซีนคันแรก มารับตัวคนร้ายก่อน ส่วนรถอีกคันจะระบุให้มารับบิดาของคนร้ายในอีกวันหนึ่ง จากนั้นคนร้าย ซึ่งจากการสืบสวนภายหลังทราบว่า มิได้เดินทางลงจากเครื่องบินเข้ามาในประเทศแต่อย่างใด เนื่องจากพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว แต่แกล้งมารถโดยสารสาธารณะมุ่งหน้าไปขึ้นรถลิมมูซีนจากสนามบิน เพื่อมาเช็คอินตามโรงแรมที่จองไว้ เมื่อมาถึงโรงแรมก็ได้ลงทะเบียนเข้าพัก
   จากนั้นคนร้ายก็ออกอุบายว่า เอกสารหนังสือเดินทางและเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ผู้เป็นพ่อ ซึ่งอยู่รถคันที่ 2 ที่จะตามมา เลยขอให้โรงแรมอนุญาตให้พักและกินใช้ก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดพ่อจะเป็นคนชำระเอง โดยอาศัยฉวยโอกาสจากมาตรฐานการบริการลูกค้าของโรงแรมระดับชั้นนำ อีกทั้งเมื่อโรงแรมตรวจสอบในระบบก็พบว่ามีการจองรถคันที่ 2 ไว้อีกวันหนึ่งด้วย ซึ่งจะต้องไปรับแขกอีกท่านมาที่โรงแรมจริง จึงหลงเชื่อยอมให้เข้าพักไปก่อน เมื่อคนร้ายได้รับอนุญาตให้เข้าพัก ก็จะมีการสั่งอาหารและใช้บริการ room service ต่างๆของโรงแรมอย่างเต็มที่ โดยระบุให้ลงบิลค่าใช้จ่ายรวมเข้ากับค่าห้องพัก นอกจากนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าในการก่อเหตุบางแห่ง จะมีการชักชวนเพื่อน 2-3 คน มาร่วมรับประทานอาหารและสังสรรค์ในห้องพักด้วย จนกระทั่งถึงกำหนดวันและเวลาที่แจ้งว่าจะให้รถลิมมูซีนคันที่ 2 ต้องมารอรับบิดาของคนร้ายจากสนามบิน แต่ก็ไม่ปรากฏพบบิดาตามที่แจ้ง ในเช้าวันถัดมา
   เมื่อทางโรงแรมเข้าทำความสะอาด ก็ไม่พบทรัพย์สินของมีค่าของคนร้าย จึงพยายามติดต่อแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ในทุกช่องทาง โดยทางโรงแรมได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งจากเหตุดังกล่าว ต่อมาในช่วงต้นปี 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชุดสืบสวน ก็ได้รับรายงานพบเหตุลักษณะเดิมอีกครั้งที่โรงแรมย่านการค้าธุรกิจ กรุงเทพมหานครชั้นใน และล่าสุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบความผิดลักษณะดังกล่าวที่โรงแรมหรู ในย่านชิดลม ซึ่งผู้จัดการโรงแรมก็ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับเหตุในลักษณะเดียวกันไว้แล้ว จึงเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นแผนการและกลอุบายของคนร้ายคนเดียวกัน ที่ตั้งใจก่อเหตุซ้ำๆหลายท้องที่ หลายช่วงเวลา แต่มีแผนประทุษกรรมคล้ายกันทั้งหมด เจ้าหน้าที่ฯ จึงเร่งทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าคนร้ายมิใช่นักท่องเที่ยวแต่อย่างใด แต่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้นำข้อมูลจากการสืบสวน ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหารายนี้
   ต่อมาในวันที่ 25 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่โดยรอบมหาวิทยาลัยดังกล่าว เนื่องจากได้ข้อมูลจากการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับรายนี้กำลังเดินทางออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อกลับมาพักอาศัยอยู่ห้องพักใกล้กับมหาวิทยาลัย จนกระทั่งในช่วงเวลาเย็น เจ้าหน้าจึงไปดักรอจับกุมบุคคลตามหมายจับกุม ทราบชื่อคือนายเลโอนาร์โด เฮอร์นันเดซ (นามสมมติ) อายุ 26 ปีสัญชาติฟิลิปปินส์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ผู้ถูกจับตรวจสอบ ชื่อ วันเดือนปีเกิด และภาพถ่ายโดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ซึ่งคนร้ายต้องหาว่า “โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงดังกล่าวนั้นโดยได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม
081-6235473
โพสเมื่อ : 02 พ.ค. 2568,06:24   อ่าน 32 ครั้ง