 |
ข่าว ภูมิภาค |
 |
กระทรวงยุติธรรม จัดงานมหกรรมแก้หนี้ ปี 2 หลังพบ พบยอดหนี้มีปัญหาของยะลา พุ่งกว่า 284 ล้านบาท
อับดุลหาดี/ยะลา/4 มิ.ย. 68
กระทรวงยุติธรรม จัดงานมหกรรมแก้หนี้ ปี 2 หลังพบ พบยอดหนี้มีปัญหาของยะลา พุ่งกว่า 284 ล้านบาท
โดยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมาเป็นประธานในงานมหกรรมแก้หนี้ ปีที่ 2 จังหวัดยะลา กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2568 ซึ่งกระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา สำนักงานบังคับคดีจังวัดยะลา ร่วมบูรณาการ กับของทุนเงินให้ยืมเพื่อการศึกษา และสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ หน่วยงานภาครฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ได้เชิญชวนลูกหนี้เข้ร่วมงานทั้ง 3 วัน ซึ่งคาดว่ามีประชาชนลงทะเบียนร่วมงาน จำนวนกว่า 1,880 ราย และยอดหนี้กว่า 284 ล้านบาท
โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์ ในกรณีก่อนฟ้องคือการผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของขั้นบังคับคดี หรือหลังคำพิพากษา ประโยชน์ที่จะได้รับคือการขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยืดทรัพย์ งดขายทอดตลาด ลูกหนี้ไม่ถูกบังคับคดี และยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
ด้านนางแวดะ อุเซ็ง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม บอกว่า ตนเองมาปรับโครงสร้างหนี้ของ กยศ. เนื่องจากว่า ก่อนหน้านี้เคยปรับมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ล่าสุดยอดหักเงินมากขึ้น ซึ่งยอดภาระของตนค่อนข้างสูง เงินเดือนไม่ได้มีมากพอ ที่จะมาหักเงินมากขนาดนี้ ก็จึงมาขอปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้ง เพื่อที่จะได้จ่ายชำระหนี้น้อยลง จะได้นำเงินที่เหลือไปส่งให้ลูกเรียนหนังสือ ค่าน้ำค่าไฟ และดูแลครอบครัว
“ตนมียอดค้าง กยศ.ประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท หลังจากปรับโครงสร้างหนี้ครั้งนี้ ก็จะได้ผ่อนจ่าย 180 งวดๆละ 360 บาท เงินจำนวนนี้ก็พอที่จะสามารถจ่ายคืนได้ หากเดือนไหนมีเงินมากพอ ก็สามารถจ่ายเพิ่มได้ ก็จะทำให้หมดภาระหนี้เร็วขึ้น จากเดิมที่ต้องจ่ายเดือนละ 1 พันบาท แต่เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดนหักไปเดือนละ 4-5 พันบาท จึงมาปรับโครงสร้างหนี้ในวันนี้ โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ที่ทำให้สามารถวางแผนทางการเงินได้” นายแวดะ กล่าว
โดยนางแวดะ ยังได้บอกอีกว่า สำหรับการศึกษาของบุตร ตอนนี้ ก็พยายามส่งให้เรียนด้วยเงินของเธอเอง ไม่อยากให้ไปกู้ยืม กยศ. อีกแล้ว ก็หวังว่าตนจะสามารถส่งเสียให้บุตรได้เรียนจนจบปริญญาตรี ส่วนบุตรจะกู้ยืมเงินเพื่อเรียนต่อในอนาคตหรือไม่นั้น ก็ให้ตัดสินใจเอง
|
โพสเมื่อ :
04 มิ.ย. 2568,17:13
อ่าน 27 ครั้ง
|