 |
ข่าว ภูมิภาค |
 |
กองทัพภาคที่ 3 จัดกิจกรรม “จิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์พัฒนาปรับภูมิทัศน์ วัดอรัญญิก”
พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 จัดกิจกรรม “จิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์พัฒนาปรับภูมิทัศน์ วัดอรัญญิก”
วันที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 นาฬิกา ที่ ณ วัดอรัญญิก ตำบลอรัญญิก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ร่วมกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์พัฒนาปรับภูมิทัศน์ วัดอรัญญิก พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมให้กำลังพลจิตอาสา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568
โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชจากหน่วยขึ้นตรง กองทัพภาคที่ 3 ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกันพัฒนา ปรับภูมิทัศน์วัดอรัญญิก ทำให้เกิดความสะอาด เป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม สร้างความประทับใจแก่ประชาชนที่มาประกอบศาสนกิจวัดอรัญญิก เป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์และความสำคัญของจังหวัดพิษณุโลก ตลอดจนมีความสำคัญทางศาสนา รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองพิษณุโลก และเป็นการรวมพลังความจงรักภักดีและความสามัคคี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สืบสานพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี จะยึดมั่นในการปฏิบัติดีรักษาชาติบ้านเมือง สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน สนองพระมหากรุณาธิคุณตลอดไป
วัดอรัญญิก ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 8 ถนนพญาเสือ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก มีเนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน 6 ตารางวา มีโบราณสถานตั้งอยู่ในเกาะกลางดูน้ำในบริเวณกลางพื้นที่ของวัด ซึ่งกรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อปีพุทธศักราช 2479 วัดอรัญญิก ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นในปี พุทธศักราช 1620 ก่อนกรุงสุโขทัย แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นพร้อมกันกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช แต่วัดอรัญญิกตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก ห่างจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุประมาณ 3 กิโลเมตร มีอาณาบริเวณกว้างขวางอุดมสมบูรณ์ไปด้วยไม้นานาพันธุ์ เป็นที่ร่มรื่น เงียบสงัด เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม บริเวณกลางวัด มีเกาะล้อมรอบด้วยน้ำ เป็นที่ตั้งของศาสนสถานขนาดใหญ่ ประกอบด้วย เจดีย์ประธานเจดีย์ราย อุโบสถ วิหารหลวง วิหารน้อย วิหารคด ซุ้มพระประจำทิศ และมณฑป เป็นต้น วัดอรัญญิกสันนิษฐานว่า เป็นพระอารามหลวงมาแต่เดิม
ประมาณ พ.ศ. 1904 รัชสมัย พระมหาธรรมราชาที่ 1 พญาลิไท แห่งกรุงสุโขทัย ครั้งเสด็จมาประทับเมืองพิษณุโลก 7 ปี สันนิษฐานว่า มีการขุดดูน้ำและสร้างพระวิหารด้านทิศตะวันออกของเจดีย์ประธานประมาณ พ.ศ. 2006 สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ คราวสถาปนาเมืองพิษณุโลกเป็นราชธานี ประทับเมืองพิษณุโลก 25 ปี ทรงสร้างพระเจดีย์รายเพิ่มเติม สร้างซุ้มพระ ทิศ และระเบียงคดล้อมรอบ 4 ด้านของเจดีย์ประธานประมาณ พ.ศ. 2127 เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราย ครั้งดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราช กรุงศรีอยุธยา ใช้เมืองพิษณุโลกเป็นฐานในการกอบกู้เอกราชก่อน และให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งพ.ศ. 299 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในคราวใช้เมืองพิษณุโลกเป็นฐานในการทำสงครามกับเชียงใหม่ และให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้งหนึ่งประมาณ พ.ศ. 2318 หลังเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 อะแซหวุ่นกี้ แม่ทัพพม่า ยกทัพเข้าล้อมเมืองพิษณุโลก เผาวัดทุกแห่งในเมืองพิษณุโลกเพื่อไม่ให้เป็นที่หลบซ่อนของทหารและชาวบ้าน รวมทั้งวัดอรัญญิก ก็ถูกเผาด้วยยกเว้นวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารเท่านั้นที่ไม่ถูกเผา วัดอรัญญิกได้เสื่อมโทรมลง ชำรุด ทรุดโทรม ปรักหักพัง รกร้าง มีการขุดหาวัตถุมงคลและของมีค่าต่างๆจนศาสนสถานทุกชิ้นเสียหายยับเยิน แม้องค์เจดีย์ประธาน เหลือเพียงยอดด้วนและฐานจมดิน กลับเข้าสู่สภาพป่ารก ยังเหลือต้นยางสูงใหญ่เป็นเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ของผู้หลงทางแห่งเมืองพิษณุโลกได้จดจำ ก่อน พ.ศ. 2500 มีคณะแม่ชี นำโดย แม่ชีพวง ซึ่งเป็นคนพื้นบ้านอรัญญิก เริ่มเข้ามาปรับปรุงบริเวณวัดอรัญญิก แต่ยังขาดปัจจัยหลายด้านในการบูรณปฏิสังขรณ์ประมาณ พ.ศ. 2512 พระครูสมุห์แจ่ม สุธมฺโม (ภายหลังได้รับพระราชทินนาม พระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูประสาทธรรมวัตร และต่อมาได้เป็นพระราขาคณะ ราชทินนาม ที่ "พระวรญาณมุนี") หรือที่คนเรียกทั่วไปว่า "หลวงตาละมัย" ได้นำคณะศรัทธาสร้างเสนาสนะต่าง ๆ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญและอื่น ๆ พ.ศ.2541 โบราณสถานในเกาะกลางน้ำ กรมศิลปากรได้ทำการสำรวจขุดค้นและตกแต่ง จนเห็นเป็นรูปร่างบางส่วน ทั้ง พระเจดีย์ประธานข้างล้อม เจดีย์ราย วิหารหลวง วิหารคด อุโบสถ มณฑป เป็นต้น
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก
|
โพสเมื่อ :
04 มิ.ย. 2568,17:16
อ่าน 42 ครั้ง
|