ปส.กวาดล้างครั้งใหญ่! ยึดยาบ้า-ไอซ์ ทะลักกว่า 7 ล้านเม็ด ไอซ์ 1 ตัน เครือข่ายสั่นสะเทือนทั้งประเทศ
สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภาว่า ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจําหน่าย เน้นการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นลําเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ และข้อสั่งการของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นการปราบปรามแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางที่จะส่งมายังกรุงเทพมหานคร ประกอบกับนโยบาย ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งกําชับการปราบปรามยาเสพติด อย่างเร่งด่วน
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.(ปป) และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.
บช.ปส. โดย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส., ผบก.ปส.1 - 4, ผบก.สกส. และ ผบก.ขส. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม และขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย รวมทั้งการขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายที่ยังหลบหนี และยึดทรัพย์ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกราย
วันนี้ (6 มิ.ย.68) บช.ปส. ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร, นบ.ยส.35 และ ป.ป.ส., พลตรีฉกาจ ขันตี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. จำนวน 5 คดี ผู้ต้องหา 7 คน รถยนต์ของกลาง 7 คัน ของกลางยาเสพติดคือยาบ้า 7,810,000 เม็ด และไอซ์ 1,000 กิโลกรัม ดังนี้
บก.สกส.
คดี ยาบ้า 2,000,000 เม็ด ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.มงคล ออมทรัพย์ ผกก.3 บก.สกส.
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 05.00-11.30 น. บก.สกส.บช.ปส., ภ.6 และเจ้าหน้าที่ทหาร นบ.ยส.35, นปส.ขทก.ศปก.ทบ. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 2,000,000 เม็ด สืบเนื่องจาก กก.3 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีนายเต๋ง กับพวกมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ใช้รถยนต์สีขาว หมายเลขทะเบียน บม xxxx พะเยา และรถยนต์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ชส xxxx กรุงเทพ ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ในพื้นที่ อ.เทิง จว.เชียงราย และจะนำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จว.เพชรบูรณ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ใช้เส้นทางจาก อ.เทิง จว.เชียงราย - จว.พะเยา - จว.แพร่ - จว.อุตรดิตถ์ - จว.พิษณุโลก ปลายทาง จว.เพชรบูรณ์ จึงเฝ้าสืบสวนเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 23 พ.ค.68 พบความเคลื่อนไหวรถยนต์กลุ่มดังกล่าวในพื้นที่ จว.อุตรดิตถ์ จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม จนมาถึง อ.วังทอง จว.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวเข้าสกัดกั้นรถยนต์ทั้ง 2 คัน รถยนต์หมายเลขทะเบียน ชส xxxx กรุงเทพฯ พบนายเต๋ง และ น.ส.ปาณิสรา อยู่ภายในรถ ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บน xxxx พะเยา เร่งความเร็วเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เลยเสียหลักลงข้างทางแต่ผู้ขับขี่หลบหนีไปได้ ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 2 ล้านเม็ด
ต่อมาสามารถขยายผลตามจับกุมนายประเสริฐ ที่วิ่งหลบหนี ได้บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร จว.พิษณุโลก จึงแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลทั้ง 3 และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งให้ พงส.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดี ยาบ้า 4,570,000 เม็ด ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.มงคล ออมทรัพย์ ผกก.3 บก.สกส.
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.68 เวลาประมาณ 14.20 น. บก.สกส.และ เจ้าหน้าที่ทหาร ขกท.ศปก.ทบ. ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า 4,570,000 เม็ด สืบเนื่องจาก กก.3 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบกลุ่มนายณัฐกิตติ์ กับพวกมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ด้าน จว.เชียงใหม่ มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง ใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน 3ฒฐ xxxx กทม. และรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 5กฎ xxxx กทม. ในการลำเลียง โดยใช้เส้นทางจาก จว.เชียงใหม่ - จว.ลำพูน -สุโขทัย-กำแพงเพชร-จว.นครสวรรค์ เข้าสู่พื้นที่ชั้นในต่อไป จึงติดตามสืบสวนเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 29 พ.ค.2568 พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์กลุ่มดังกล่าวในพื้นที่ อ.พรานกระต่าย จว.กำแพงเพชร จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม จากการสังเกตทั้ง 2 คัน ทิ้งระยะห่างกันประมาณ 4-5 กม. จนถึงบริเวณถนนหมายเลข 122 (ถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์) ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมืองนครสวรรค์ จว.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าสกัดกั้นรถยนต์หมายเลขทะเบียน 3ฒฐ xxxx กทม. พบนายณัฐกิตติ์ เป็นผู้ขับขี่ และชายไม่ทราบชื่อ(หลบหนีจับกุม) นั่งโดยสารคู่กับผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในรถพบยา 4,570,000 เม็ด ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5กฎ xxxx กทม.สามารถสกัดได้บริเวณริมถนนหมายเลข 3005 ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมืองนครสวรรค์ จว.นครสวรรค์ โดยมีนายทวีศักดิ์ เป็นผู้ขับขี่ จึงแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลทั้ง 2 ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดี ยาบ้า 1,000,000 เม็ด ผู้นำเสนอ พ.ต.ท.ธนะรัชต์ มินาคูณ รอง ผกก.4 บก.สกส.
เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลาประมาณ 15.00 น. บก.สกส. และ บก.ขส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,000,000 เม็ด สืบเนื่องจาก กก.4 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดจาก จ.สระบุรี ใช้รถยนต์ทะเบียน ผผ xxxx สุราษฎร์ธานี ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปที่ จว.สุราษฎร์ธานี โดยใช้เส้นทางลงมาตามถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ จึงได้วางกำลังตามรายทางเพื่อสังเกตรถยนต์คันดังกล่าว จนเวลาประมาณ 14.50 น.พบรถยนต์คันดังกล่าวจึงได้ทำการติดตาม จนถึงบริเวณถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ม.3 ต.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้แสดงตัว และเข้าควบคุมรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบนายสิทธิศักดิ์ฯ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในรถพบยาบ้า 1,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในตู้ทึบ จึงแจ้งข้อกล่าวและสิทธิให้ทราบ ก่อนจะนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งให้ พงส.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดี ยาบ้า 240,000 เม็ด ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ งามลาภ ผกก.1 บก.สกส.
เมื่อวันที่ 2-3 มิ.ย.68 บก.สกส.ร่วมกับ บก.ปส.4 ตรวจยึดยาบ้า 240,000 เม็ด สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปยังพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้การลำเลียงทางบริษัทขนส่งเอกชน ในพื้นที่เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงเข้าประสานบริษัทดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อมูลการรับส่งพัสดุ ที่มีปลายทางไป อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ผลการตรวจสอบพบว่ามีพัสดุที่มีปลายทางไป อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จำนวนหนึ่ง แต่พบกล่องน่าสงสัยจำนวน 2 กล่อง ซึ่งปรากฏชื่อผู้รับปลายทางตามที่สายลับแจ้ง จึงขอตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกล่องทั้ง 2 กล่องๆ ละประมาณ 100,000 เม็ด รวมยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด จึงได้ร่วมกันตรวจยึด และดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมตัวผู้รับยาเสพติด ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ตามที่อยู่ที่ให้ไว้ ต่อมาเวลาประมาณ 09.15 น. (3 มิ.ย.68) ได้นำกล่องพัสดุทั้งสองกล่องไปวางไว้ที่หน้าบ้านเลขที่ 80/17 หมู่ 5 ถนนประชาชื่นใจ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา พร้อมโทรแจ้งเบอร์ที่ให้ไว้ ต่อมาสังเกตเห็นมีคนมายกกล่องพัสดุทั้ง 2 กล่อง เข้าบ้านเลขที่ดังกล่าว จึงเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบไม่พบบุคคลอยู่ภายในบ้าน พบเพียงกล่องพัสดุที่มี ยาเสพติดจำนวน 2 กล่อง จากการตรวจค้นรอบบริเวณบ้านพบยาบ้า เพิ่มจำนวนประมาณ 40,000 เม็ด จึงทำการตรวจยึด และนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บก.ปส.3
คดี ไอซ์ 1,000 กิโลกรัม ผู้นำเสนอ พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.68 นปส.เชียงใหม่ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ นบ.ยส.35 และหน่วยงานในพื้นที่จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาพร้อม
ของกลาง บริเวณถนนหมายเลข 107 ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปส.เชียงใหม่ กก.2 บก.ปส.3 สืบสวนทราบว่า เครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์ลีซอ จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ เพื่อนำส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้เฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.68 พบความเคลื่อนไหวรถกระบะกลุ่มบุคคล ในเครือข่าย โดยท้ายกระบะบรรทุกสิ่งของลักษณะมีน้ำหนักมาก ปิดคลุมด้วยผ้าใบสีฟ้าขาว แล่นออกจากหมู่บ้าน ห้วยราชบุตร ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าเข้า อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ เมื่อถึงถนนหมายเลข 107 เขตพื้นที่ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวขับรถยนต์เข้าสกัด ตรวจสอบรถกระบะพบผู้ต้องหาจำนวน 1 คน พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม อยู่บริเวณท้ายกระบะ จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 เพื่อดำเนินคดี
ปฏิบัติการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นไปตามข้อสั่งการของ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้มอบนโยบายให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การดำเนินการดังกล่าว มุ่งเน้นการกดดันและทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั้งในระดับผู้ค้ายารายใหญ่ และรายย่อย ตลอดจนเร่งรัดขยายผลไปยังกลุ่มผู้ให้การสนับสนุน รวมถึงเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง และจากสถิติผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึง ปัจจุบัน ทั่วประเทศสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้จำนวนทั้งสิ้น 169,068 ราย ตรวจยึดของกลางยาเสพติดเป็นยาบ้า จำนวน 663,117,549 เม็ด, ไอซ์ 35,781.06 กิโลกรัม, เฮโรอีน 1,009.86 กิโลกรัม, คีตามีน 5,101.52 กิโลกรัม และยาอีจำนวน 273,221 เม็ด รวมทั้งสามารถดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดได้รวมมูลค่ากว่า 9,368,811,113 บาท
สำหรับการปราบปรามยาเสพติดของ บช.ปส. ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 - ปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการ
ค้ายาเสพติดทุกคดีได้ 810 คดี ผู้ต้องหา 798 คน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 211,119,475 เม็ด,
ไอซ์ 17,621.22 กก., เฮโรอีน 317.22 กก., คีตามีน 950.74 กก. ยาอี 614 เม็ด โคเคน 16.21 กก. และยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 4,009,987,243 บาท
|