ข่าว ภูมิภาค
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบบัญชีม้า แก๊งหลอกขายสินค้า เสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบบัญชีม้า แก๊งหลอกขายสินค้า เสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท
 
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์  แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมสัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ชุดปฏิบัติการ ที่ 5
ร่วมกันจับกุม นายสิทธิโชคฯ อายุ 30 ปี รวมทั้งสิ้น 3 หมายจับ ผู้ต้องหาตามตามหมายจับ  
1.ศาลจังหวัดพังงา ที่ 187/2567 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
“เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้
มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
2.ศาลจังหวัดยะลา ที่ 37/2567 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ต้องหาความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายผู้อื่น”
3.ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 19/2568 ลงวันที่ 8 มกราคม 2568 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์
ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านอาหาร ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ผู้เสียหาย ถูกหลอกลวงมาจากการซื้อขายสินค้าทางแฟลตฟอร์มออนไลน์ ผู้เสียหายจึงร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งคาโงก ภ.จว.พังงา, สภ.เมืองยะลา และ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาจากการสอบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้รับจ้างเปิดบัญชี เป็นบัญชีม้า ให้กับกลุ่มคนร้าย นำมาหลอกลวง กลุ่มผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหาย 1,214,174 บาท แบ่งความเสียหายแต่ละท้องที่ ดังนี้ สภ.ทุ่งคาโงก มูลค่าความเสียหาย 480,000 บาท, สภ.เมืองยะลา มูลค่าความเสียหาย 384,174 บาท, สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มูลค่าความเสียหาย 350,000 บาท
โดยก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า นายสิทธิโชคฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพังงา ที่ 187/2567 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน
โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” ได้ไปทำงานอยู่ร้านอาหาร ต.วังหว้า
อ.แกลง จ.ระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาตามวันเวลาที่จับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งได้พบชายมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับข้างต้น ปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าแสดงตัวและได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจนทราบว่าคือ นายสิทธิโชคฯ ตรวจสอบบัตรประชาชนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้ดูโดยอ่านให้ฟังและให้อ่านด้วยตนเองจนเป็นที่พอใจแล้ว
ชายคนดังกล่าวยอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้นจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน
จากการตรวจสอบพบว่า นายสิทธิโชคฯ ได้ก่อเหตุในท้องที่อื่น และมีหมายจับอื่นอีก 2 หมายจับ 1.หมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ 37/2567 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ต้องหาความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายผู้อื่น”
และ 2.หมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 19/2568 ลงวันที่ 8 มกราคม 2568 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ นายสิทธิโชคฯ ทราบว่าจะต้องถูกจับ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา
และแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบ จากนั้นควบคุมตัวมาจัดทำบันทึกการจับกุม ก่อนนำตัวส่ง สภ.ทุ่งคาโงก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา​
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล สว.กก.5 บก.ป.
โทร. 06 5959 0949
 
 
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
โพสเมื่อ : 05 ก.ย. 2568,17:14   อ่าน 10 ครั้ง