ข่าว ภูมิภาค
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมอภิมหาโจร เคยตระเวนก่อเหตุ ลักทรัพย์ทั่วไทยมากว่า 30 คดี ก่อนสิ้นลาย! ถูกตำรวจทางหลวงดักรวบกลางถนน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมอภิมหาโจร เคยตระเวนก่อเหตุ
ลักทรัพย์ทั่วไทยมากว่า 30 คดี ก่อนสิ้นลาย! ถูกตำรวจทางหลวงดักรวบกลางถนน
ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ 
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.บก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.,
พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง, พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย ด.ต.ไพศาล เจริญเรืองทรัพย์, ด.ต.สยาม เปรมมล, จ.ส.ต.ประเสริฐ พูลศิริ, จ.ส.ต.ธัญพิสิษฐ์ วรพุฒิ, จ.ส.ต.สราวุฒิ ประจวบวัน ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.
 
ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายจิรทีปต์ฯ อายุ 55 ปี สัญชาติ ไทย ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 152/2568 ลงวันที่ 8 เมษายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
 
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการประสานจากชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ตรวจสอบรถต้องสงสัยในคดีลักทรัพย์เขตอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสีดำ โดยรถคันดังกล่าวใช้ถนนเพชรเกษม กำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บน ถนนเพชรเกษม ขาเข้า กทม. เขตอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยตรงกับที่ได้รับแจ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดรถ แต่ปรากฏว่ารถดังกล่าวได้เร่งเครื่องหลบหนี จนถึงช่วง 
ถ.เพชรเกษม ช่วง กม.129 ตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถหยุดรถต้องสงสัยดังกล่าวไว้ได้ ตรวจสอบในรถพบนายจิรทีปต์ฯ เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า นายจิรทีปต์ฯ เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 152/2568 จึงได้แสดงหมายจับให้ 
นายจิรทีปต์ฯ ดูและได้ยืนยันว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงและยังไม่เคยถูกจับกุมตัวตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายกับให้ทราบ ควบคุมตัวนำตัวส่ง
พนักงานสอบสวน สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติของ นายจิรทีปต์ฯ ย้อนหลัง พบว่านายจิรทีปต์ฯ เป็นผู้ต้องหาที่มีประวัติเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์มาแล้วกว่า 30 คดี มีการตระเวนลักทรัพย์มาอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ช่วงปี 2539-2568 เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดีพอพ้นโทษ ก็กลับมากระทำความผิดลักทรัพย์อีก แต่กระทำลงไปด้วยความแยบยลและระมัดระวังตัวมากขึ้น โดยพยายามร่วมกันกระทำผิดหลายๆ คนกับเพื่อนในสมัยที่เคยจำคุกมาด้วยกัน โดยนายจิรทีปต์ฯ 
จะรับหน้าที่ดูต้นทาง เพราะบางครั้งในบ้านที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดเฉพาะภายในบ้านเมื่อมีการเกิดเหตุและมีการดำเนินคดีขึ้นมา ก็จะเห็นเฉพาะตัวผู้ที่ลงมือลักทรัพย์เท่านั้น พฤติการณ์ของนายจิรทีปต์ฯ เป็นอาชญากรที่ระดับวางแผนสั่งการ ก่อนจะพลาดท่าถูกดำเนินคดีและถูกจำคุกที่เรือนจำกลางกำแพงเพชร ต่อมาพ้นโทษออกมา
เมื่อ 9 กันยายน 2567 และได้มาตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามพบข้อมูลว่ามีกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คนโดยสารยานพาหนะรถยนต์สีดำ ตระเวนลักทรัพย์หมู่บ้านไม่ต่ำกว่า 10 หลัง ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.2568 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบว่าหนึ่งในนั้น มีตำหนิรูปพรรณ คล้ายนายจิรทีปต์ฯ ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นทองคำน้ำหนัก 20 บาท กับเงินสด พระเครื่องและของมีค่าอื่นๆ มากกว่า 2 ล้านบาท โดยนำไปขายให้กับกลุ่มตลาดมืดใน กทม. และนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว 
ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายจิรทีปต์ฯ มีหมายจับค้างเก่าของศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 152/2568 ลงวันที่ 8 เม.ย.2568  และหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ 352/2568 ลงวันที่ 21 ก.ค. 2568 จนกระทั่งตำรวจทางหลวงเพชรบุรีสามารถจับกุม นายจิรทีปต์ฯ ได้ตามรายละเอียดข้างต้น และยังได้ขยายผลได้ผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 1 ราย 
จากการตรวจสอบคดีอาญาย้อนหลังพบว่า นายจิรทีปต์ฯ เป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์รายสำคัญ ซึ่งก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท โดยในอดีต เมื่อ 20 พ.ย. 2557 นั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม 
ครั้งที่ 15/2557 โดยที่ประชุมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตาม 
พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552 ดังนี้ ที่ประชุมได้มีมติสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินบางส่วนของ นายจิรทีปต์ฯ , นายจักรพันธ์ฯ และนายอดิศักดิ์ฯ กับพวกเนื่องจากกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะปกติธุระโดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีประวัติในคดีลักทรัพย์จังหวัดต่างๆ 
ในภาคกลาง มาอย่างต่อเนื่อง ระหว่างปี 2535-2556 เบื้องต้นพบทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่ามาจากคดีลักทรัพย์ 
อาทิ เงิน ทองรูปพรรณ พระเครื่อง พระพุทธรูปบูชา วัตถุมงคล เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา ฯลฯ ไม่ปรากฎผู้เสียหายมายืนยันของกลาง รวมทั้งสิ้น 1,983 รายการ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
 
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การรับว่า เพิ่งได้ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในเขตอำเภอสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาจริงโดยได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ  
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. โทร 091-945-1935 
 
โพสเมื่อ : 11 ก.ย. 2568,17:08   อ่าน 9 ครั้ง